วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ตายแล้วไปไหน (ตอน 1)


ก่อนที่จะรู้ว่าตายแล้วไปไหน เราควรจะต้องเข้าใจ ว่าความตายคืออะไร 

หากจะเปรียบกระแสชีวิตของสัตว์โลกเหมือนสายนำ้ในนที  ความตายก็เปรียบเสมือนจุดโค้งตอนที่สายนำ้เปลี่ยนทิศทาง  

สำหรับผู้บรรลุธรรมหรือพระอรหันต์ ความตายคือการสิ้นสุด ลงอย่างแท้จริงของชีวิต เป็นการจบสิ้นการเวียนว่ายตายเกิด  ส่วนปุถุชนอย่างเรา กระแสชีวิตจะมีสืบเนื่องกันไปไม่มีวันสิ้นสุด  ฉะนั้นความตายจึงเท่ากับเป็นการยุติของกิจกรรม ชีวิตในช่วงชีวิตหนึ่ง เพื่อจะตั้งต้นกิจกรรมชีวิตใหม่ในทันทีที่มีการเกิดใหม่ 

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ความตายคือจุดสุดท้ายของชีวิตนี้ และเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตต่อไปนั่นเอง โดยอาจเปรียบได้กับการที่พระอาทิตย์ตกและขึ้น ซึ่งแทบไม่มีช่วงของความมืดคั่นอยู่เลย และถ้าจะเปรียบกับหนังสือที่ว่าด้วยการอุบัติของสัตว์โลก ความตายก็เป็นตอนจบของบทหนึ่ง ในขณะที่บทต่อไปก็จะเริ่มต้นขึ้นใหม่ในทันทีทันใดนั้นเอง

แม้ว่าเราจะหาอุปมาอุปมัยที่ตรงตัวจริงๆ มากล่าวไม่ได้  แต่เราก็อาจเปรียบกระแสแห่งชีวิตเป็นดั่งรถไฟที่วิ่งไปบนราง  เมื่อกำลังจะถึงสถานีแห่งความตาย มันจะชะลอความเร็วลง ชั่วขณะหนึ่ง แล้วก็จะเร่งความเร็วให้เหมือนเดิมต่อไป โดยไม่มีการหยุดแม้เพียงชั่วขณะเดียว 

สำหรับผู้ที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ ความตายหาใช่สถานีปลายทางไม่ แต่จะเป็นดังสถานีชุมทางที่มีรางรถไฟถึง ๓๑ สายมาบรรจบกัน  เมื่อรถไฟวิ่งมาถึงชุมทางนี้ ก็จะเปลี่ยนราง แล้วออกวิ่งต่อไปด้วยความเร็วเช่นเดิม 

เชื้อเพลิงที่ทำให้รถไฟแล่นไปได้โดยไม่หยุดนี้ ได้แก่ กระแสแห่งกรรม ซึ่งบุคคลแต่ละคนได้ประกอบไว้ในอดีตชาติทับถมกันมา ทำให้เกิดการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด

การเปลี่ยนรางเดินของรถไฟนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติ ประดุจดังการที่นำ้แข็งละลายเป็นนำ้หรือนำ้กลายเป็นนำ้แข็ง อันเป็นไปตามกฎธรรมชาติ  การถ่ายเทจากชีวิตหนึ่งไปสู่อีกชีวิตหนึ่งก็เป็นไปตามกฎธรรมชาติเช่นกัน

รถไฟแห่งชีวิตไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนรางได้เอง แต่ยังสามารถกำหนดรางที่จะวิ่งต่อไปเองด้วย  สำหรับรถไฟแห่งการเกิดนั้น สถานีแห่งความตาย ซึ่งเป็นชุมทางที่รถไฟจะต้องเปลี่ยนเส้นทางนี้มีความสำคัญยิ่ง ในขณะที่ชีวิตปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดลง  และร่างกายกำลังจะถูกละทิ้งไปนั้น ชีวิตใหม่ก็ใกล้จะอุบัติขึ้น 

การเกิดจึงเป็นผลของความตาย  หรืออีกนัยหนึ่ง ความตายเป็นสิ่งที่กำหนดการเกิดครั้งต่อไป  ฉะนั้นความตายจึงมิใช่เป็นเพียงความตาย หากแต่เป็นการเกิดด้วย  ณ สถานีชุมทางนี้เองที่ชีวิตเปลี่ยนไปสู่ ความตาย และความตายเปลี่ยนไปสู่การเกิด

เราจึงควรระลึกว่า ทุกๆชีวิตเป็นการเตรียมตัวเพื่อที่จะตาย  ถ้าเราฉลาดพอก็จะต้องพยายามดำเนินชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่อเตรียมตัวตายให้ดีที่สุด และการตายที่ดีที่สุดก็คือการที่ไม่กลับมาเกิดอีก ซึ่งได้แก่การตายของพระอรหันต์ อันเป็นการไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างแท้จริง  เพราะไม่มีรางให้รถไฟวิ่งอีกต่อไปแล้ว 

เราจึงควรที่จะพยายามกำหนดการอุบัติขึ้นของชีวิตใหม่ให้ดีที่สุด เพื่อวันหนึ่งเราจะได้บรรลุถึงจุดหมายปลายทางที่แท้จริงเช่นนั้นบ้าง  ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับตัวเราเอง เราเป็นผู้กำหนดอนาคตของเรา เราเป็นผู้กำหนดความสุขและความทุกข์ ตลอดจนความหลุดพ้นของเราเอง

ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถจัดวางรางเพื่อรองรับรถไฟที่ วิ่งมาอย่างเร็วได้  การที่จะตอบคำถามนี้ได้ เราต้องมีความเข้าใจในเรื่องของ "กรรม" เสียก่อน ...

อ่านตอน2
https://www.facebook.com/Goenka.News/posts/1794450230810442:0

ลิงค์เพื่อการดาวน์โหลดหนังสืออีบุ๊ค (PDF File)
http://goo.gl/njgUVh

________________
ให้ส่ง pdf ตายแล้วไปไหน

แจ้งว่า "pdf ตายแล้วไปไหน "

แจ้งที่

ID Line: Goenka.News
หรือกด

http://line.me/ti/p/~Goenka.News
________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น