วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วิธีการสั่งจิตใต้สำนึก


วิธีการสั่งจิตใต้สำนึก คือ การปรับคลื่นสมองให้ต่ำด้วยการทำให้ร่างกายผ่อนคลาย เข้าสู่ภวังค์ ซึ่งก็อยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น แล้วก็ดึงข้อมูลลบออก (ถ้ามี) ตามด้วยการใส่ข้อมูลบวกเข้าไปแทน แล้วก็ปรัีบคลื่นสมองให้กลับสู่สภาวะปกติด้วยการปลุกให้ตื่น เท่านี้ก็เป็นอันจบกระบวนการ สรุปสั้นๆ ดังรูปข้างล่าง


 ในช่วงที่ล้าง "ข้อมูลลบออก" แล้วใส่ "ข้อมูลด้านบวก" เข้าไปแทนนั้น จะใช้คำพูดร่วมกับจินตนาการ และ ความรู้สึก ในการสร้างเป้าหมายที่อยากได้ ขอเรียกว่าเป้าหมายจินตนาการ เช่น ความเจ็บปวดที่ขาได้หายไปอย่างหมดสิ้น , ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนแพ้ท้องอีกแล้ว ฯลฯ

สรุปสูตรในการสั่งจิต   
เป้าหมายจินตนาการ      =     คำพูด   +    จินตนาการ     +    ความรู้สึก

โดยผู้่รับคำสั่งจิตไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่ต้องสนใจอะไรเลยทั้งนั้น ขอใ้ห้เป็นหน้าที่ของผู้สัี่งจิตที่จะจัดหา ปัจจัยนำเข้า และ กระบวนการ ให้เกิดเป้าหมายจริง   ดังรูป
  


           ในการทำงานของการสั่งจิตใต้สำนึกจะคิดถึงเป้าหมายที่อยากได้ก่อน เรียกว่า เป้าหมายจินตนาการ  โดยการตั้งเป้าหมายที่ดี ควรกำหนดระยะเวลาที่ต้องการสำเร็จและเป็นไปได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น อยากลดน้ำหนักลง 2 กิโลกรัมภายใน 2 สัปดาห์ เป็นต้น เมื่อสั่งจิตใต้สำนึกเรียบร้อยแล้ว จิตใต้สำนึกจะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเอาไว้และส่งกลับไปที่จิตสำนึกให้ปฏิบัติภารกิจจนบรรลุ เป้าหมายจริง เช่น เกิดความรู้สึกไม่อยากทานอาหารปริมาณมากเกินความจำเป็น ไม่อยากทานของมัน ของหวาน เกิดความรู้สึกอยากทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากๆ เช่น ผัก ผลไม้ ไม่ทานอาหารตอนดึก เมื่อกาลเวลาผ่านไป สัปดาห์ น้ำหนักก็ลดลง กิโลกรัม ตามที่ตั้งใจไว้ได้
เทคนิคของการทำงานของการสั่งจิตใต้สำนึก จะเริ่มต้นที่เป้าหมายจินตนาการก่อน แล้วปัจจัยนำเข้าและกระบวนการจะตามมาทีหลังเอง โดยไม่ต้องคิดล่วงหน้า ไม่ต้องห่วงว่าเป้าหมายจะยากเกินไปไหม ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ และเป้าหมายจริงที่อยากได้ก็จะเกิดขึ้นจริงตามเป้าหมายจินตนาการ ดังรูป 
คราวนี้ สงสัยแล้วใช้ไหมว่า ปัจจัยนำเข้าและกระบวนการที่บอกว่าจะตามมาทีหลังเป็นยังงัย จริงๆ มันก็คือข้อมูลที่มาจากผู้สั่งจิตได้สัมภาษณ์ผู้รับการสั่งจิต เพื่อให้ได้ข้อมูลในเรื่องพฤติกรรมในการทานอาหาร การดำรงชีวิตว่าเป็นอย่างไร ถึงทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แล้วนำข้อมูลลบนั้นมาปรับให้เป็นบวกเพื่อใช้ลดน้ำหนักนั่นเอง
สรุปก็คือ ในขณะที่สั่งจิตใต้สำนึก คำพูดต่างๆ มากมายของผู้สั่งจิตที่หลั่งไหลพรั่งพรูให้ผู้สั่งจิต มันก็คือปัจจัยนำเข้าและกระบวนการให้ผู้รับการสั่งจิตไปปฏิบัติหลังการสั่งจิตใต้สำนึก นั่นเอง เช่น ให้คุณทานอาหารเพียง จาน เพราะเพียงพอกับร่างกายแล้ว ให้คุณเป็นคนที่รู้จักเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อร่างกาย เช่น ทานอาหารที่มีสัดส่วนของไฟเบอร์ให้มากกว่าเนื้อสัตว์ ให้งดเนื้อสัตว์ที่ติดมัน ให้งดทานน้ำหวาน ขนมหวาน ให้งดทานขนมจุกจิก ให้งดทานอาหารมื้อดึก ถ้าจำเป็นต้องทาน ให้เป็นอาหารประเภทไฟเบอร์แทน เช่น ผักลวก ผักจิ้ม ผลไม้ที่ไม่หวาน  เป็นต้น
ดังนั้น ผู้รับการสั่งจิตทุกท่านที่อยากผอมแต่ยังตะกละ ไม่ต้องกังวลว่า ต้องอดกินของชอบแล้วจะลงแดงไหม จะทำใจได้ไหม จะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ต้องทำอย่างไรจึงจะได้ผล ขอให้ทำใจให้สบาย หลังการสั่งจิตใต้สำนึกแล้วคำตอบและกระบวนการต่างๆ จะหลั่งไหลพรั่งพรูมาเอง เพราะจิตใต้สำนึกจะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเอาไว้และส่งกลับไปที่จิตสำนึกให้บรรลุเป้าหมาย
แต่ก็ต้องระวัง บางคนมีเป้าหมายจินตนาการหลายอัน ถ้าเป็นเป้าหมายที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่งเสริมกันและกัน ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเป้าหมายหลายอันแต่ไม่สนับสนุนกันเลย ไปคนละทิศคนละทาง หรือเป็นประเภทรักพี่เสียดายน้อง ก็ทำให้การสั่งจิตใต้สำนึกไม่บรรลุผลแน่นอน เพราะมันขัดกันเอง เช่น อยากหุ่นดี แต่สามีชอบคนอ้วน สั่งจิตลดน้ำหนักยังงัยก็ไม่ลดซะที ก็เพราะในใจลึกๆต้องการที่จะตามใจสามี มันมีพลังมากกว่าใจที่อยากจะมีหุ่นดี ดังนั้น ผู้รับการสั่งจิตต้องเคลียร์เป้าหมายจินตนาการของตนเองให้ชัดเจนจริงๆ ว่าอยากได้อะไรกันแน่ เพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลา เสียเงิน แล้วบอกว่า สั่งจิตใต้สำนึกไม่เห็นได้ผลเลย
การตั้งเป้าหมายในช่วงแรก อาจไม่นิ่ง สามารถเปลี่ยนแปลงเป้าหมายจินตนาการได้ หากได้เป้าหมายจินตนาการตัวที่ แล้ว ก็อาจจะยกเลิกแล้วตั้งเป้าหมายจินตนาการอันใหม่ก็ได้ หากไม่ได้เป้าหมาย ก็พิจารณาทบทวนว่ามันเกิดจากสาเหตุใด จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนเป้าหมายจินตนาการก็ได้ แต่ขออย่างเดียวกคือ ทำต่อไปอย่าท้อแท้เป็นอันขาด เพราะเป้าหมายจินตนาการกำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นจริงอย่างทีละเล็กทีละน้อยแล้ว ขอให้มีความเชื่อว่าจะได้เป้าหมายแน่นอน ขอเวลาให้มันได้พัฒนาให้เป็นเป้าหมายจริงต่อไป
ดังนั้น ไม่ว่าจะได้รับผลสำเร็จหรือไม่ อย่าเพิ่งท้อใจ ให้พยายามสั่งจิตตนเองต่อไปทุกวันด้วยฉบับย่อก่อนนอนหรือหลังตื่นนอน (จะกล่าวรายละเอียดในตอนท้าย) ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะได้รับเป้าหมายจริงแน่นอน โดยเหตุผลที่ได้รับเป้าหมายจริงล่าช้า อาจเกิดการต้องใช้เวลา 
ทยิดา รังสฤษฎ์รัศมี / บ้านชีวีสุข



ที่มา  http://www.hypnosishappy.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น